อาชีพตำรวจ ของ โรนัลด์ เดลา โรซา

ช่วงต้นอาชีพ (ค.ศ. 1986–2012)

เดลา โรซา เข้าร่วมกองกำลังตำรวจในปี ค.ศ. 1986 ในฐานะผู้หมวดของกองกำลังตำรวจฟิลิปปินส์ ที่ตอนนี้ยุบหน่วยแล้ว[n 2] ในดาเบา[11] ส่วนในปี ค.ศ. 1992 เขาได้รับมอบหมายให้เป็นสารวัตรใหญ่และทำงานเป็นหนึ่งในพนักงานที่สำนักงานตำรวจภูมิภาค (PRO)-ดาเบา และในปี ค.ศ. 1997 เขาได้รับมอบหมายให้เป็นผู้อำนวยการตำรวจภูธรของจังหวัดลัมบักนางโคมโปสเตลา สำหรับในปี ค.ศ. 1999 เขาได้รับมอบหมายให้ทำงานในตำแหน่งผู้อำนวยการตำรวจของกรมตำรวจแห่งชาติฟิลิปปินส์ (PNP) ที่แคมป์เคลมในเกซอนซิตี ครั้นในปี ค.ศ. 2001 เขากลับมาทำงานที่สำนักงานตำรวจภูมิภาค-ดาเบา ยังคงดำรงตำแหน่งรองหัวหน้าสำนักงานบุคลากรภูมิภาค กองทรัพยากรบุคคลและการพัฒนาของเขตที่ 11 แล้วในปี ค.ศ. 2003 เขาได้รับการเลื่อนตำแหน่งเป็นผู้กำกับการตำรวจและได้รับมอบหมายสู่แคมป์คาติติปันในดาเบา จากนั้นเขาก็ย้ายไปเป็นผู้อำนวยการฝ่ายทรัพยากรบุคคลและการพัฒนาในฐานะหัวหน้าหน่วยฝึกอบรม กระทั่งในปี ค.ศ. 2005 เขาได้รับมอบหมายให้เป็นนายตำรวจเขตเมืองดาเบา (DCPO) หลังจากนั้นแปดเดือน เขาย้ายกลับไปที่สำนักงานตำรวจภูมิภาค-ดาเบา และได้รับการเลื่อนตำแหน่งเป็นหัวหน้าหน่วยสืบราชการลับและสืบสวนภูมิภาค (RIID) ส่วนในปี ค.ศ. 2007 เขาได้เป็นผู้อำนวยการสำนักงานตำรวจภูธรจังหวัดลัมบักนางโคมโปสเตลา (CVPPO) ในฐานะผู้กำกับการ ต่อมา ในปี ค.ศ. 2008 เขาได้รับการเลื่อนตำแหน่งเป็นผู้กำกับอาวุโส และในปี ค.ศ. 2009 เขาย้ายไปอยู่ที่จังหวัดตีโมกดาเบาซึ่งทำหน้าที่เป็นผู้อำนวยการสำนักงานตำรวจภูธรจังหวัดตีโมกดาเบา (DSPPO) ส่วนในปี ค.ศ. 2011 เขาเป็นหัวหน้าส่วนภูมิภาคของแผนกโลจิสติกส์และพัฒนางานวิจัย (RL-RDD) ในสำนักงานตำรวจภูมิภาค-ดาเบา กระทั่งปี ค.ศ. 2012 เขาได้รับมอบหมายสู่นครดาเบา ในฐานะผู้อำนวยการคนใหม่ของสำนักงานตำรวจนครดาเบา[2]

หัวหน้าตำรวจนครดาเบา (ค.ศ. 2012–2013)

เดลา โรซา เคยดำรงตำแหน่งหัวหน้าสำนักงานตำรวจนครดาเบาตั้งแต่เดือนมกราคม ค.ศ. 2012 ถึงเดือนตุลาคม ค.ศ. 2013 ภายใต้นายกเทศมนตรีซารา ดูแตร์เต (ในสำนักงาน: 30 มิถุนายน ค.ศ. 2010 – 30 มิถุนายน ค.ศ. 2013) และโรดรีโก ดูแตร์เต (ในสำนักงาน: 30 มิถุนายน ค.ศ. 2013 – 30 มิถุนายน ค.ศ. 2016)[15][11] ในปี ค.ศ. 2012 เขาเป็นผู้นำการปราบปรามองค์การการโจรกรรมรถยนต์ถูกกล่าวหาว่าริเริ่มโครงการโดยไรอัน "บักติน" ยู[16] ส่วนในเดือนกรกฎาคม ค.ศ. 2013 เขาเป็นหัวหน้าช่วยชีวิตที่ประสบความสำเร็จของนักธุรกิจหญิงชาวฟิลิปปินส์-จีน ที่ชื่อแซลลี ชัว[17][18] นอกจากนี้เขายังเป็นผู้กำกับแผนยุทธการโอแปลนโตคัง (Oplan Tokhang เป็นคำผสมภาษาเซบัวโน จากคำว่า tuktok ที่หมายถึงเคาะ และ hangyo ที่หมายถึงเกลี้ยกล่อม) ซึ่งเป็นการรณรงค์ต่อต้านสารเสพติดผิดกฎหมาย ที่ตำรวจเคาะประตูของผู้ใช้สารเสพติดและผู้จัดจำหน่ายที่ต้องสงสัย และชักจูงให้ยุติกิจกรรมผิดกฎหมาย;[19] และโอแปลนปักกัง (Oplan Pakgang เป็นคำผสมภาษาเซบัวโน จากคำว่า “Pitulon ang Kabatan-onan sa Gang” ที่หมายถึง “การฝึกวินัยเยาวชนในแก๊ง”) ที่ตำรวจให้คำปราศรัยและการอภิปราย เพื่อให้เยาวชนของนครดาเบาหมดกำลังใจในการเข้าร่วมแก๊งอาชญากรและกิจกรรมที่ผิดกฎหมายอื่น ๆ[20][21]

แคมป์เคลม (ค.ศ. 2013–2016)

หลังจากทำหน้าที่เป็นหัวหน้าตำรวจนครดาเบา เดลา โรซา ได้รับมอบหมายให้ทำงานที่สำนักงานใหญ่ของกรมตำรวจแห่งชาติฟิลิปปินส์ในแคมป์เคลม ที่ซึ่งเขาทำงานให้กับกลุ่มข่าวกรองของกรมตำรวจแห่งชาติฟิลิปปินส์ตั้งแต่เดือนตุลาคม ค.ศ. 2013 ถึงธันวาคม ค.ศ. 2014[3][11][22]

ส่วนในปี ค.ศ. 2015 เดลา โรซา ได้เป็นสมาชิกของคณะกรรมการสอบสวนการปะทะที่มามาซาปาโน เหตุการณ์ดังกล่าวอ้างถึงหน่วยปฏิบัติการพิเศษที่เสียชีวิต 44 ราย, สมาชิกอิสลามโมโร 17 ราย และพลเรือนห้าคนในขณะที่ตำรวจกำลังปฏิบัติภารกิจในการจับกุมซูลกิฟลี อับด์เฮอร์ ซึ่งเป็นผู้ก่อการร้ายนานาชาติ ที่มีนามแฝงว่ามาร์วัน[23][24][25]

เดลา โรซา ยังดำรงตำแหน่งผู้บริหารระดับสูงของคณะกรรมการทรัพยากรมนุษย์และการพัฒนาหลักคำสอน (HRDD)[3][11][22]

โดยไม่กี่วันก่อนการเลือกตั้งทั่วไปในฟิลิปปินส์ เมื่อวันที่ 9 พฤษภาคม ค.ศ. 2016 เดลา โรซา ได้พ้นข้อหาตามที่ผู้บัญชาการกองพลของกำลังสนับสนุนผู้เตรียมพร้อม (RSSF) ของกรมตำรวจแห่งชาติฟิลิปปินส์เปิดเผย เนื่องจากถูกกล่าวหาว่าโพสต์เฟซบุ๊กของเขาได้รับการสนับสนุนจากผู้สมัครประธานาธิบดีโรดรีโก ดูแตร์เต โดยสเตตัสเฟซบุ๊กเมื่อวันที่ 1 พฤษภาคม ค.ศ. 2016 ได้เกิดเป็นปรากฏการณ์ไวรอล ด้วยข้อความ :

ผมเป็นผู้บัญชาการกองพลของกำลังสนับสนุนผู้เตรียมพร้อม ของกรมตำรวจแห่งชาติฟิลิปปินส์ ประกอบด้วย 8 กองพัน บุคลากรประมาณ 5,000 คนในแคมป์เคลม Kayong mga mangdadaya at mangliligalig ngayong ("คนที่จะโกงและก่อการร้ายใน") การเลือกตั้งวันที่ 9 พฤษภาคม humanda na kayo ("จะถูกเตือน") ! เราจะบดขยี้คุณ !!!

ส่วนโพสต์เฟซบุ๊กอีกรายการในวันที่ 26 เมษายน ค.ศ. 2016 เขียนว่า :

ถึงเวลาแล้วสำหรับแบทแมนปะทะเอมีลีโอ อากีนัลโด ใครจะชนะ ? ซูเปอร์ฮีโรในเรื่องแต่งหรือฮีโรฟิลิปปินส์ของจริง ?

ระหว่างการชิงชัยฟิลิปปินส์ ค.ศ. 2016 – สาขาลูซอน ซึ่งเป็นการดีเบตประธานาธิบดีครั้งที่สามและครั้งสุดท้าย ดูแตร์เตกล่าวว่าผู้ให้การรณรงค์หาเสียงหลักของเขาคือเอมีลีโอ อากีนัลโด ในขณะที่ผู้ถือมาตรฐานพรรคเสรีนิยมอย่างมาร์ รอกซัส อ้างคำพูดของแบทแมน อย่างไรก็ตาม ผู้บังคับบัญชาของเดลา โรซา ในเวลานั้น คือรองอธิบดีดานีโล คอนสตันตีโน ซึ่งเป็นรองหัวหน้ากรมตำรวจแห่งชาติฟิลิปปินส์สำหรับการดำเนินงาน ไม่ยอมรับว่าโพสต์เฟซบุ๊กของเดลา โรซา เป็นเหตุผลหลักที่ทำให้เขาพ้นข้อหา ตามที่รองอธิบดีคอนสตันตีโนระบุไว้ หัวหน้าผู้กำกับเดลา โรซา ได้พ้นข้อหาจากกำลังสนับสนุนผู้เตรียมพร้อม (RSSF) ดังนั้น เขาสามารถมุ่งความสนใจไปที่ความรับผิดชอบของเขาในฐานะเจ้าหน้าที่บริหารของคณะกรรมการทรัพยากรมนุษย์และการพัฒนาหลักคำสอน (HRDD) ของกรมตำรวจแห่งชาติฟิลิปปินส์ กระนั้น คอนสตันตีโนกล่าวว่าฝ่ายกิจการภายใน กรมตำรวจแห่งชาติฟิลิปปินส์ จะตรวจสอบโพสต์เฟซบุ๊กของเดลา โรซา สำหรับความรับผิดชอบในการบริหารที่เป็นไปได้ ในฐานะที่เจ้าหน้าที่ตำรวจแห่งชาติฟิลิปปินส์ต้องเป็นกลางและไม่สนใจการเมืองในระหว่างการเลือกตั้ง[26][27][28][29]

อธิบดีกรมตำรวจแห่งชาติฟิลิปปินส์ (ค.ศ. 2016–2018)

ประธานาธิบดีโรดรีโก ดูแตร์เต พบปะกับ อธิบดีกรมตำรวจแห่งชาติฟิลิปปินส์โรนัลด์ เดลา โรซา ในทำเนียบมาลากาญัน เมื่อเดือนสิงหาคม ค.ศ. 2016

เดลา โรซา ได้รับการคัดเลือกจากประธานาธิบดีโรดรีโก ดูแตร์เต ให้เป็นอธิบดีกรมตำรวจแห่งชาติฟิลิปปินส์คนใหม่เมื่อวันที่ 19 พฤษภาคม ค.ศ. 2016[12] ส่วนวันที่ 1 กรกฎาคม ค.ศ. 2016 เขาได้ทำการสาบานอย่างเป็นทางการในการรับตำแหน่งอธิบดีกรมตำรวจแห่งชาติฟิลิปินส์คนที่ 21 ในขณะที่ได้รับการเลื่อนตำแหน่งเป็นอธิบดี ซึ่งเป็นตำแหน่งสูงสุดของกรม[3] ครั้นในเดือนตุลาคม ค.ศ. 2017 เดลา โรซา กล่าวหาว่ารองประธานาธิบดีเลนี โรเบรโด มีความทะเยอทะยานทางการเมืองที่จะเป็นประธานาธิบดีแม้จะยังคงทำงานในงานปัจจุบันของเธออยู่ หลังจากนั้นไม่กี่วัน เขาบอกใบ้ว่าเขาอาจจะเสนอตัวเองเข้าชิงตำแหน่งประธานาธิบดีในปี ค.ศ. 2022 และจะได้รับค่าตอบแทนเพิ่มขึ้นเป็นสองเท่าของเจ้าหน้าที่ตำรวจเมื่อได้รับการเลือกตั้ง[30][31] เขาได้เกษียณอายุในวันที่ 21 มกราคมเนื่องจากการเกษียณอายุที่บังคับเมื่ออายุ 56 ปี แต่ระยะเวลาของเขาได้รับการยืดออกไปเป็นเวลา 3 เดือนจนถึงวันที่ 21 เมษายน ค.ศ. 2018[32]

อธิบดีแห่งสำนักราชทัณฑ์ (ค.ศ. 2018–ปัจจุบัน)

เมื่อวันที่ 30 เมษายน ค.ศ. 2018 เดลา โรซา ได้รับการแต่งตั้งให้เป็นอธิบดีแห่งสำนักราชทัณฑ์ ซึ่งเอกสารการแต่งตั้งได้รับการเผยแพร่ต่อสาธารณชนเมื่อวันที่ 3 พฤษภาคม[33]

แหล่งที่มา

WikiPedia: โรนัลด์ เดลา โรซา http://news.abs-cbn.com/entertainment/07/21/16/wat... http://news.abs-cbn.com/halalan2016/nation/05/03/1... http://news.abs-cbn.com/nation/06/10/16/bato-i-am-... http://news.abs-cbn.com/news/05/01/17/anak-ni-bato... http://news.abs-cbn.com/news/07/07/16/god-wife-gho... http://news.abs-cbn.com/news/10/30/16/pnp-chief-ba... http://news.abs-cbn.com/video/nation/regions/07/12... http://www.bomboradyo.com/am-stations/cdo/cdo-news... http://cnnphilippines.com/videos/2016/06/08/The-Ba... http://www.gmanetwork.com/news/story/317060/news/r...